นวดรักษากับนวดผ่อนคลายแตกต่างกันอย่างไร


03/01/2025
03/01/2025 12:00 PM
images

อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ที่มาจากทั้งการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การยกของหนัก หรือการออกกำลังกายที่หนัดเกินไปนั้น เป็นการการที่พบเจอได้บ่อยได้ทุกวันนี้ ซึ่งวิธีการในการดูแลรักษานั้นก็มีหลากหลายอย่าง และที่เป็นที่นิยมกันมานั่นคือการ “นวด”

การนวดแบ่งออกเป็นกี่ประเภท?
การนวดนั้นบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ
1.การนวดผ่อนคลาย คือเพื่อเป็นการทำให้ร่ายกายรู้สึกสบาย ผ่อนคลายจากความเมื่อล้า โดยจะเป็นการนวดตามกล้ามเนื้อที่มีอาการ หรือเป็นการนวดทั้งตัว โดยการใช้เทคนิคการนวดที่นุ่มนวล เพื่อสร้างความผ่อนคลายได้มากขึ้น โดยที่อาจจะมีการใช้น้ำมันอโรมา หรือน้ำมันหอมระเหยร่วมด้วย
2.การนวดรักษา คือการนวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดเฉพาะที่ ผ่านการนวดลงลึกถึงกล้ามเนื้อมัดกลาง และมัดลึก เพื่อเป็นการคลายปมกล้ามเนื้อ และลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อได้ รวมไปถึงก่อนเข้ารับการนวดรักษานั้นจะมีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย เพื่อสอบถามอาการ และวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับอาการของบุคคลนั้น ๆ

นวดรักษา กับ นวดผ่อนคลายใครเป็นคนนวด?
ในการนวดนั้นจะมีคำที่คุ้นหูกับมากนั่นคือคำว่าหมอนวด โดยมาจากการใช้บริการการนวดผ่อนคลาย หรือนวดเพื่อสุขภาพ ทั้งนี้กลุ่มคนที่ให้บริการด้านการนวดผ่อนคลาย หรือนวดเพื่อสุขภาพนั้น จะผ่านการอบรมทักษะจากนวดจากกระทรวงสาธารณธสุข และได้รับการรับรอง ขั้นทะเบียน เพื่อเป็นพนักงานนวดจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ในขณะที่การนวดรักษานั้นจะมีการนวดโดย แพทย์แผนไทย หรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ ที่จบจากหลักสูตรการแพทย์แผนไทย หรือการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองหลักสูตร รวมไปถึงได้รับใบประกอบวิชาชีพจากสภาการแพทย์ทางเลือก

ซึ่งจะเห็นได้ว่าการนวดรูปแบบที่แตกต่างกันนั้น ควรมีการใช้บุคลากรที่ความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน เพื่อเป็นการสร้างการดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

เมื่อไหร่ควรนวดรักษา หรือ เมื่อไหร่ควรนวดผ่อนคลาย?
ปัจจุบันนั้นการเลือกเข้ารับบริการการนวดนั้นไม่ได้มีข้อกำหนดชัดเจนว่าควรเลือกรับบริการอันใดอันหนึ่ง แต่ว่าควรมีการพิจารณาจากอาการของบุคคลแต่ละบุคคลเป็นหลัก เพื่อที่จะได้มีประสิทธิภาพการรักษาที่เห็นผลมากที่สุด หากคุณมีอาการเหล่านี้
- ปวดกล้ามเนื้อจากการทำงานหนัก
- มีอาการปวดศีรษะ ไมเกรน ร่วมกับอาการปวดกล้ามเนื้อ
- มีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบอื่น ๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจที่ไม่ค่อยเต็มอิ่ม ระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติทำให้เกิดอาการท้องอืด กรดไหลย้อน
- อาการปวดกล้ามเนื้อเป็นเรื้อรัง
- มีอาการ ชา อ่อนแรงร่วมกับอาการปวดกล้ามเนื้อ

อาการข้างต้นนี้เป็นการแสดงออกถึง “ความเจ็บป่วย” ของร่างกาย ดังนั้นหากมีอาการข้างต้นควรเป็นการนวดรักษา เพื่อที่จะได้มีการบรรเทาอาการความเจ็บป่วยได้อย่างเหมาะสม ถูกจุดมากขึ้ย อีกทั้งหากคุณสงสัย หรือว่ามีอาการเหล่านี้ และต้องการการนวดนั้น แนะนำให้เข้ารับบริการนวดรักษา เช่น
- อาการชาระดับรุนแรง
- ภาวะกระดูกเสื่อม
- ภาวะหมอนรองกระดูกปลิ้น

เพราะอาการเหล่านี้นั้น การนวดอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินของโรคได้ ดังนั้นการเข้ารับบริการกับแพทย์แผนไทย หรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการรักษานั้น คุณหมอจะมีการตรวจประเมินอาการก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจตามหลักการกายวิภาคศาสตร์ การตรวจด้วยการทดสอบพิเศษที่สามารถแยกโรคได้ จะสามารถทำให้การนวดนั้นได้ประสิทธิภาพที่ดี และเกิดความปลอดภัยกับผู้รับบริการมากที่สุด

images
Contact us